การมองเห็น ไม่ใช่หน้าที่ของดวงตาเท่านั้น ภาพที่ตาจับได้จะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญสณไฟฟ้าที่จอประสาทตา และถูกส่งไปยังสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการมองเห็นผ่านขั้วประสาทตา จากนั้นสมองจะเปลี่ยนสัญญาณเป็นภาพ นั่นจึงจะเริ่มถือว่าเป็นการมองเห็น มีแพทย์คนหนึ่งบอกกับผู้ป่วยว่า ที่จริงแล้วสมองก็กำลังมองอยู่เหมือนกัน ผู็คนส่วนใหญ่ก็มักทำท่าประหลาดใจ แม้จะนึกไม่ออกว่า สมอง เข้ามาเกี่ยวอะไรด้วยแต่ไม่ว่าใครก็คงเคยมีประสบการณ์ดังตัวอย่างต่อไปนี้อย่างแน่นอน

- ไม่ทันเห็นคนรู้จักขณะที่กำลังเดินเหม่อ

- อ่านตัวหนังสือผิดตอนที่เหนื่อยล้า

- หาของไม่เจอเสียที ทั้งที่วางอยู่แถวนั้นแท้ ๆ

นี่เป็นภาวะที่ภาพของสิ่งหนึ่งสะท้อนอยู่บนดวงตาแต่สมองกลับมองไม่เห็น ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ทันได้สังเกต เพราะฉะนั้น การเชื่อว่าสมองก็มองเห็นได้เหมือนกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูสายตา ในหมู่คนที่สายตาผิดปกติมีจำนวนไม่น้อยที่คิดว่า ถึงอย่างไรก็มองไม่เห็นอยู่แล้ว การที่คิดอย่างนั้นทำให้สมองได้รับแต่ภาพในแง่ลบสายตาของหลายคนจึงแย่ลงยิ่งกว่าเดิม

ปัจจุบันมีพนักงานออฟฟิตที่มีอาการ ตามัว เพิ่มมากขึ้น และถึงแม้จะสวมแว่นตาหรือใส่คอนแทกต์เลนส์ก็ยังไม่หาย บางคนรู้สึกกังวลมากจนถึงกับไปเข้ารับการตรวจวัดระดับความพิการของผู้พิการทางสายตากันเลยทีเดียว และหลายคนคิดกันว่า สายตาแย่ลงอย่างนี้ ฉันควรจะไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้พิการทางสายตาหรือยัง ฉันพิการประมาณระดับ 2 หรือเปล่านะ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะคนเหล่านั้นรู้สึกหมดหวัง เช่น สายตาแย่ลงเรื่อย ๆ อยู่แล้ว ไม่มีทางดีขึ้นหรอก ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์ตลอด ช่วยไม่ได้หรอกถ้าสายตะเสีย ความรู้สึกหมดหวังเหล่านี้จะถูกส่งไปยังสมองและต่อให้พยายามแก้ปัญหาสายตาด้วยการสวมแว่นตาหรือใส่คอนแทกต์เลนส์ สายตาของคนเหล่านั้นก็แทบไม่ดีขึ้นเลย

Credit : Konno Seishi , marumura.com , whstatic.com , siamportal.com

by Admin Park