10 อันดับหนังรถแข่งที่ไม่ควรพลาด
2016-09-07 17:45:30

10 อันดับหนังรถแข่งที่ไม่ควรพลาด

 

     ในช่วงเวลาที่ผ่านมาภาพยนตร์จาก “รถแข่ง” ถือเป็นอีกความบันเทิงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลัง และเชื่อว่าหลายคนคงฝันอยากจะขับรถให้ได้แบบในภาพยนตร์ งั้นแอดก็ขอเอาใจเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจด้วยภาพยนตร์รถแข่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

    

 

10. Speed Racer ไอ้หนุ่มสปีดเขย่าฟ้า

 

     ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากการ์ตูนของ อาจารย์ทัทซึโอะ โยชิดะ เรื่องราวพูดถึงครอบครัวที่ผลิตรถยนต์ขายเองในนาม “สปีด” ที่เสียลูกชายระหว่างการแข่งขันไป และนั่นทำให้น้องชายของเขาคิดอยากจะเป็นนักแข่งรถ เพื่อทำตามฝันของพี่ชายให้สำเร็จ

 

 

9. Need For Speed ซิ่งเต็มสปีดแค้น

 

     เรื่องราวของ โทบี้ มาร์แชล (อาร์รอน พอล) ช่างเครื่องผู้ใช้แรงงานที่มีอีกบทบาทหนึ่งก็คือนักซิ่งรถตามท้องถนน แต่ด้วยภาระที่จะต้องดูแลกิจการอู่ซ่อมรถของครอบครัวให้คงอยู่ เขาจึงต้องจำใจร่วมงานกับ ไดโน่ บริวส์เตอร์ (โดมินิค คูเปอร์) อดีตนักแข่งผู้ร่ำรวยและเย่อหยิ่ง  แต่แล้วหายนะที่เกิดจากการแข่งขันก็ทำให้ ไดโน่ ใส่ร้าย โทบี้ สำหรับอาชญากรรมที่เขาไม่ได้ก่อ และทำให้เขาต้องติดคุก สองปีต่อมาโทบี้ถูกปล่อยตัวและเริ่มต้นการล้างแค้น เขารู้ว่าโอกาสเดียวที่จะโค่นไดโน่ได้ก็คือจะต้องเอาชนะในการแข่งขันที่มีเดิมพันสูงนี้ให้จงได้

 

 

8. The Legend of Speed เร็วทะลุนรก

 

     เรื่องราวของ “สกาย”  (เจิ้นอีเจี้ยน) นักแข่งรถบนท้องถนน ซึ่งถูกคู่แข่งวางแผนทำให้เขาสูญเสียทุกอย่างที่ฮ่องกง ทำให้เข้าต้องเดินทางมาพัทยาเพื่อค้นหาตัวเอง แต่เมื่อข่าวคราวของเพื่อนเขาที่ถูกศัตรูคู่อริวางแผนจนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ทำให้สกายต้องกลับมาสร้างตำนานบทใหม่ บนถนนฮ่องกงเพื่อลบรอยแค้นเดิมให้จงได้

 

 

7. Red Line ซิ่งทะลุเพดานนรก

 

     ภาพยนตร์รถแข่งสุดระห่ำที่มาพร้อมเหล่ารถสปอร์ตสุดหรู ในเรื่องราวของหนุ่มสาวนักซิ่งที่มารวมตัวกันบนท้องถนนอันเป็นสนามประลองความแรงเพื่อช่วงชิงเงินรางวัล 24 ล้านเหรียญ กับการแข่งขันที่กติกาและกฎหมายไม่มีความสำคัญใดๆ ทั้งสิ้น

 

 

6. Cars 4 ล้อซิ่ง…ซ่าท้าโลก

 

     การ์ตูนอนิเมชั่นของเหล่ารถซิ่ง โดยพูดถึง “ไลท์นิ่ง แม็คควีน” รถแข่งน้องใหม่ที่กำลังกระหายในชัยชนะ โดยเขากำลังมุ่งหน้าไปเรดิเอเตอร์ สปริงส์ เพื่อเข้าแข่งขันรายการพิสตัน คัพ แชมเปียนชิพในแคลิฟอร์เนีย แต่ในระหว่างการเดินทางข้ามประเทศ เขาพบว่าตัวเองต้องวิ่งทางอ้อมตามเส้นทางรูท 66   และเขาก็ได้พบกับ “เมเทอร์” รถลากเก่าสนิมเขรอะ ที่ช่วยให้เขารู้ว่ายังมีสิ่งอื่นที่สำคัญยิ่งไปกว่าถ้วยรางวัลและชื่อเสียง

 

 

5. Death Race ซิ่ง สั่ง ตาย

 

     เรือนจำนรก “เทอร์มินัล ไอสแลนด์” เหล่าบรรดานักโทษที่มีการติดสินให้ถูกประหารชีวิตถูกสั่งให้เล่นเกมกีฬาสุดโหดและการแข่งขันแบบเรียลลิตี้โชว์ในจอทีวี นั่นก็คือการแข่งรถที่ใช้ชีวิตเป็นเดิมพันเรียกว่า Death Race” โดยมีข้อแม้ว่าถ้าชนะในการแข่งครบทั้งหมด 5 ครั้งก็จะได้รับอิสรภาพ

 

 

4. Rush อัดเต็มสปีด

 

     เรื่องราวเกิดขึ้นในทศวรรษที่ 70 ยุคทองของการแข่งขันรถฟอร์มูล่า วัน ที่มีนักขับเพียงสองคนที่ผลัดกันชนะจนมีผลการแข่งไล่เลี่ยกัน นั่นก็คือ เจมส์ ฮันท์ (คริส เฮมส์เวิร์ส) นักขับชาวอังกฤษผู้เปี่ยมไปด้วยมั่นใจในตัวเองและไม่กลัวตาย และ นิกิ เลาดา (แดเนียล บรูห์) นักขับชาวออสเตรียผู้ที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ในการขับรถและต้องการความสมบูรณ์แบบตลอดเวลา ด้วยความแตกต่างในทัศนคติและแนวคิดของฮันท์ และ เลาดา ทำให้พวกเขาต้องปะทะกันไม่เพียงแต่ในสนามแข่งรถ แต่ยังรวมถึงชีวิตส่วนตัว และผู้ที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดก็มีได้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

 

 

3. Thunder Bolt เร็วฟ้าผ่า

 

     อาหัว (เฉินหลง) นายช่างฝีมือดีของมิตซูบิชิ ที่ดันบังเอิญไปเผชิญกับอาชญากรนักซิ่ง “ครูเกอร์” ที่อาศัยการแข่งรถมืออาชีพมาบังหน้าในการซิ่งบนถนน ทว่าการที่อาหัวช่วยตำรวจในการจับตัวครูเกอร์นั้นกลับกลายเป็นความแค้นที่ทำให้ครูเกอร์มาลักพาตัวน้องสาวของเขา เพื่อให้อาหัวมาแข่งรถกับเขาในสนามประลองฝีมือกันอีกครั้ง

 

 

2. Initial D ดริฟท์ติ้ง ซิ่งสายฟ้า

 

     ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่น  โดยเป็นเรื่องราวของ ฟูจิวาระ ทาคูมิ รับบทโดยนักร้องหนุ่ม “เจย์ โชว์” ลูกนักแข่งรถในตำนาน แต่ชีวิตวัยรุ่นของเขาคือการช่วยพ่อทำงานที่ร้านเต้าหู้ของพ่อ โดยมีหน้าที่ขับรถส่งเต้าหู้ทุกวัน  โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกพ่อฝึกให้เป็นนักซิ่ง จนกระทั่งเขาได้โชว์ฝีมือไม่ตั้งใจแก้นักซิ่งเจ้าถิ่นและนั่นทำให้ชีวิตนักแข่งรถของเขาเริ่มต้นขึ้น

 

 

1. The Fast & The Furious เร็ว…แรงทะลุนรก

 

     คงจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้นอกจากเรื่อง The Fast & The Furious และถึงแม้จะเสียพระเอกนักแสดงฝีมือดีอย่าง “พอล วอคเกอร์” ก็ยังคงทำให้เรื่อง The Fast & The Furious ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นเรื่องราวของ ไบอัน โอคอนเนอร์ (พอล วอคเกอร์)  เจ้าหน้าที่  FBI ที่ลองแฝงตัวเข้าไปในหมู่นักแข่งรถผิดกฏหมายข้างถนน เพื่อค้นหาคดีขโมยของต่างๆ จากรถบรรทุก โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของแก๊งซิ่ง โดมินิค โทเร็ตโต (วินดีเซล) สุดยอดฝีมือนักแข่ง และถึงแม้ว่าภาคหลังๆ จะเน้นไปที่ฉากบู๊แอคชั่นไม่ใช่ฉากแข่งรถเหมือนภาคแรกๆ ก็ไม่ทำให้ The Fast & The Furious ได้รับความนิยมน้อยลงไปเลย

 

 

 

ทั้งหมด 10 เรื่องนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของภาพยนตร์รถแข่งเท่านั้น

ซึ่งอันที่จริงแล้วยังมีหนังรถแข่งอีกมากมายหลายเรื่องที่แอดอาจจะไม่ได้พูดถึง

แต่นี่คือที่สุดของหนังรถแข่งทั้ง 10 เรื่อง ที่แอดเอามาฝากสาวกคนรักรถแข่งครับ ^^

 

 

 

………………………………………………………….

 

 

 

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : Wikipedia.com / www.autodeft.com

ทีมงานตาโตเรียบเรียงนำเสนอ


Admin :
view
:
10314

Post
:
2016-09-07 17:45:30


ร่วมแสดงความคิดเห็น