เหตุปาระเบิดต่อเนื่อง ลงจากสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน (สะพานสาธร) ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา สะเก็ดระเบิดกระเด็นไปทั่วบริเวณท่าเรือสาทร

เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

   เกิดเหตุ คนร้ายปาระเบิด ลงมาจากสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน (สะพานสาทร) ลงแม่น้ำเจ้าพระยา สะเก็ดระเบิดกระเด็นไปบริเวณท่าเรือสาทร เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ ผบช.น.รุดตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ

    เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 ส.ค. พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ภิรมย์เอี่ยม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ยานนาวา รับแจ้งเหตุระเบิดภายในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ใกล้บีทีเอส สถานีสะพานตากสิน ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ทรัพย์ลออ ผกก.สน.ยานนาวา พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.สปพ.บช.น. พ.ต.ท.สัญชัย มาตร์คำจันทร์ รอง ผกก.สส.สน.ยานนาวา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สุนัขตำรวจ และ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตยานนาวา

    ที่เกิดเหตุอยู่ห่างทางขึ้นลงสถานีบีทีเอสสะพานตากสิน ประมาณ 50 เมตร นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้โป๊ะท่าเรือสาทรซึ่งมีประชาชนสัญจรผ่านจำนวนมากตลอดทั้งวันอีกด้วย จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาตินับร้อยคนกำลังมุงดูร่องรอยคราบน้ำสาดกระเซ็นเต็มตอม่อ และทางเดินตรงสะพานบริเวณโป๊ะท่าเรือจนเปียกแฉะ นอกจากนั้น ยังพบสะเก็ดระเบิดเป็นลูกเหล็กทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 มิลลิเมตร กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นราวๆ 20 ชิ้น จึงกั้นพื้นที่ พร้อมกันผู้ไว้มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากจุดเกิดเหตุ ก่อนเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

    จากการสอบสวน นางรติษา เอี่ยมละออ อายุ 36 ปี แม่ค้าเสื้อผ้าบริเวณทางขึ้นสถานีบีทีเอสสะพานตากสิน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 13.00 น. กำลังขายของอยู่ตรงใกล้จุดเกิดเหตุห่างออกมาราว 30 เมตร ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นจนหูอื้อ 1 ครั้ง ดังมาจากในน้ำตรงโป๊ะท่าเรือสาทร เมื่อหันไปดูพบน้ำกระจายขึ้นมา สาดสิ่งปลูกสร้างและนักท่องเที่ยวจนตัวเปียกแฉะไปหลายราย ตนจึงรีบวิ่งหนีตายออกมาทางถนนเจริญกรุง เพื่อตั้งหลัก พร้อมกับชาวบ้านหลายคน พอตั้งสติได้ก็รีบโทรศัพท์แจ้งที่เบอร์ 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งถือว่าโชคดีมาก ที่เหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

     มีรายงานว่า สำหรับแนวทางการติดตามหาตัวคนร้ายในคดีนี้นั้นพบว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานฝ่ายทหารที่ดูแลพื้นที่และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ฝั่งมุ่งหน้าแยกวิทยุ และกล้องวงจรปิดบนสถานีบีทีเอสสะพานตากสิน ร่วมกัน เบื้องต้นพบภาพน้ำกระจายจากแรงระเบิดเมื่อเวลา 12.59 น. แต่ยังไม่พบภาพคนร้ายที่โยนวัตถุระเบิดจากสะพานสู่แม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าต้องใช้เวลาไล่กล้องวงจรปิดอีกสักระยะ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำเพื่อช่วยงมหาหลักฐานเพิ่มเติมบริเวณใต้โป๊ะท่าเรือสาทรแล้ว เพื่อนำมาระบุชนิดระเบิด และเป็นเบาะแสติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

    อย่างไรก็ดี สำหรับการตรวจพบวัตถุพยานลูกเหล็กทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 มิลลิเมตร กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณในครั้งนี้นั้นตรงกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดวินาศกรรมในซอยสุขุมวิท 71 ท้องที่ สน.คลองตัน เมื่อวันที่ 14 ก.พ.55 ที่มีแก๊งผู้ต้องหาชาวอิหร่านหลายคน เดินทางเข้ามาใช้ประเทศไทยก่อความวุ่นวาย โดยครั้งนั้นในจุดเกิดเหตุสามารถยึดวิทยุทรานซิสเตอร์ ระเบิดซีโฟร์ และวัตถุทรงกลมที่ใช้เป็นสะเก็ดขนาดเท่ากันเอาไว้ได้ ซึ่งหลักฐานที่ยึดได้นั้นจะนำไปตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงกันต่อไป ต่อมา พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เกิดเหตุ กั้นพื้นที่เกิดเหตุบริเวณโดยรอบ 200 เมตร พร้อมให้ชุดนักประดาน้ำและเจ้าหน้าที่อีโอดีลงพื้นที่ตรวจสอบ ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เตรียมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับ ตร.รับทราบ แล้วลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนการติดตามผู้ก่อเหตุนั้น ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดว่า คนร้ายใช้ยานพาหนะใดในการก่อเหตุ



     ณ เวลา 15.00 น. รถไฟฟ้าบีทีเอส ทวิตเตอร์ผ่าน @BTS_SkyTrain แจ้ง ยังคงเปิดให้บริการตามปกติทุกสถานี 

ขอให้เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกิดขึ้นอีก พร้อมให้เจ้าหน้าที่จับผู้ก่อเหตุได้โดยเร็วเพื่อความสงบสุขของสังคมและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

คลิปเหตุการณ์

ขอขอบคุณคลิปภาพข่าวจาก Youtube : thairath

**********

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก thairath.co.th ภาพประกอบเพิ่มเติมโดย prachachat.net