เรื่องจริงไม่อิงผี
2015-06-22 10:46:37

ทราบหรือไม่ ประเทศไทยมี 90 วันอันตราย ระวังเด็กต่ำกว่า 15 ปีจมน้ำตายด้วยนะ นั่นคือ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งมีสถิติเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปีจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 1,352 คน หรือประมาณวันละ 4 คน มากกว่าอุบัติเหตุจราจรสองเท่าตัว มากกว่าไข้เลือดออก 24 เท่าตัว และผลสำรวจพบว่าเด็กไทยอายุต้ำกว่า 15 ปีที่มีจำนวน 13 ล้านคนว่ายน้ำไม่เป็นถึง 11 ล้านคน หากว่ายน้ำเป็นจะมีโอกาสรอดมากกว่าที่ผ่านมาแน่นอน

 

ปัญหาเด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำนั้นมักเกิดขึ้นรวดเร็วมาก และผู้ที่จมน้ำมีโอกาสเสียชีวิตภายใน 4 นาทีหากช่วยไม่ทัน หน้าซ้ำเมื่อเทียบสถิติกับต่างประเทศแล้ว ประเทศไทยนำเป็นที่ 1 ของยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นเด็กชาย และยังพบว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบ เด็กที่ตกน้ำจะเสียชีวิตเพราะว่ายน้ำไม่เป็น

 

ในเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ถือว่าเป็น 90 วันอันตราย เนื่องจากเด็ก ๆ มักจะลงเล่นน้ำเพื่อคลายความร้อนในวันที่ร้อนอบอ้าว และมักลงเป็นกลุ่ม เมื่อรายหนึ่งจมแล้วมักจะลงไปช่วยกัน แต่ช่วยไม่เป็นจึงมักจมน้ำตามด้วยกัน การระมัดระวังต้องอาศัยผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็กต้องดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่เผอเรอทิ้งเด็กเล็กไว้ตามลำพัง เช่น ขณะรับโทรศัพท์ ทำกับข้าว หรือเดินไปเปิด-ปิดประตูบ้านก็ตาม ไม่ให้เด็กเล่นใกล้แหล่งน้ำ หรือไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำคนเดียว เป็นต้น

 

ช่วงเกิดเหตุสูงสุดคือเวลาเที่ยงจนถึงเย็น พบอันดับ 1 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาคือ ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคเหนือ แหล่งน้ำที่เด็กตกน้ำ จมน้ำมากที่สุดคือ แหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำลำคลอง หนองน้ำ บึง รองลงมาคือ  สระว่ายน้ำและอ่างเก็บน้ำ ส่วนในกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ในปีที่ผ่านมาพบเสียชีวิต 372 ราย จุดเกิดเหตุอยู่ในบ้านคือจะจมน้ำในถังน้ำอ่างน้ำ กะละมังที่มีน้ำอยู่ เนื่องจากเด็กยังทรงตัวได้ไม่ดี ทำให้ล้มในท่าศีรษะทิ่มลง และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทำให้เสียชีวิต

 

ประเด็นปัญหาอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เด็กจมน้ำเสียชีวิตมาก ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการช่วยเหลือเบื้องต้นผิดวิธี โดยประชาชนมักอุ้มเด็กพาหบ่าให้ศีรษะต่ำ เพราะเข้าใจว่าจะช่วยให้น้ำไหลออก ขอย้ำว่าการอุ้มเด็กจมน้ำในลักษณะนี้จะทำให้เด็กขาดอากาศหายใจนานขึ้น น้ำที่ไหลออกมาจากปากเด็กไม่ใช่น้ำที่ไหลออกมาจากปอด แต่เป็นน้ำที่อยู่ในกระเพาะที่เด็กกลืนลงไป การช่วยที่ถูกวิธีควรรีบเป่าปากและนวดหัวใจ ถ้าเป็นไปได้ควรลงมือเป่าปากตั้งแต่ก่อนขึ้นฝั่ง หากคลำชีพจรไม่ได้หรือหัวใจหยุดเต้น ให้นวดหัวใจทันที ถ้าพบว่ายังหายใจเองได้ ให้จับผู้จมน้ำให้นอนตะแคงข้าง ศีรษะหงายไปข้างหลังเพื่อให้น้ำไหลออกจากทางปาก ใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วยให้ความอบอุ่น อย่าให้กินอาหารและดื่มน้ำทางปาก รีบส่งผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หากผู้ป่วยที่หมดสติหยุดหายใจต้องผายปอดด้วยวิธีเป่าปากไปตลอดทาง หรือโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือด้านการแพทย์ฉุกเฉินได้ที่สายด่วน 1669 และขอแนะนำว่าผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็น หากเดินทางทางเรือควรสวมเสื้อชูชีพไว้ตลอดเวลา เมื่อพบคนตกน้ำต้องไม่กระโดดลงไปช่วย แต่ต้องหาอุปกรณ์ในการช่วยและตะโกนให้คนอื่นมา หรือท่องคาถาแห่งความปลอดภัยคือ ตะโกน โยน ยื่น ท่องกันไว้ให้ขึ้นใจนะทุกคน

 

By Admin Park


Admin :
view
:
2841

Post
:
2015-06-22 10:46:37


ร่วมแสดงความคิดเห็น