ผลไม้แห่งพิศวาส

นารีผล หรือมักกะลีผล หรือมัคคะลีผล เป็นต้นไม้มหัศจรรย์ที่มีผลเป็นรูปหญิงสาวต้นไม้วิเศษนี้อยู่ในป่าหิมพานต์ ลักษณะของนารีผล จะมีขั้วลูกอยู่ด้านบน ซึ่งเป็นศีรษะ มีรูปร่างเป็นหญิง ผลสด รูปร่างอรชรสมส่วน ผิวพรรณผุดผ่องงดงามราวกับเทพธิดา สมัยโบราณมีตำนานเล่าไว้มากมาย แต่คนสมัยใหม่แต่แรก ๆ ก็คิดว่านารีผลมิได้มีอยู่จริง เป็นเพียงเรื่องเล่าในตำนาน แต่ต่อมา มีผู้พบต้นไม้ประหลาดที่มีผลเป็นรูปผู้หญิงอันน่าพิศวงยิ่งนัก

ในพระไตรปิฎกเล่าว่า เมื่อครั้งที่พระเวสสันดร พระนางมัทรี พร้อมด้วยบุตรทั้งสองคน คือ ชาลี และกัณหา ถูกเนรเทศจากนคร ได้เดินทางสู่ป่าหิมพานต์ไปบำเพ็ญเพียรปฏิบัติธรรมอยู่ในป่าคราวนั้น บรรดาสัตว์ป่ามากมายที่ดุร้ายเมื่อได้รับเมตตาจิตจากพระเวสสันดร ก็คลายความดุร้ายลง กลายเป็นมิตร เหล่าดาบสฤๅษี นักสิทธิ์ วิทยาธร คนธรรพ์ทั้งหลายก็มาเป็นมิตร ฝ่ายพระนางมัทรี ก็มักออกหาอาหาร หาผลไม้ตามลำพังคนเดียว เพราะพระเวสสันดรบำเพ็ญภาวนา ปฏิบัติธรรมทั้งวัน พระนางมัทรีก็ยังสาวสวย พระอินทร์ก็ทรงกลัวว่าบรรดาเทวดาที่ยังมีจิตทางโลก หรือสิทธิ์ วิทยาธร ตลอดจนถึงฤๅษีบางตน หากมาพบพระนางก็อาจจะมีอกุศลจิตคิดร้ายหมายปองพระนางเข้าก็เป็นได้

พระอินทร์ดำริเช่นนั้นจึงเนรมิตต้นไม้วิเศษไว้รอบ ๆ บริเวณที่พำนักของพระเวสสันดร และนางมัทรี รวม 16 ต้น ต้นไม้วิเศษเหล่านั้นจะออกผลซึ่งมีรูปร่างเหมือนนารี ขนาดเท่าสตรีจริง ๆ เมื่อผลโตเต็มที่ จะงดงามน่ารักราวกับสาวแรกรุ่น ผิวพรรณ ทรวดทรงองค์เอว รูปร่าง หน้าตาสวยงามดั่งนางฟ้าสวรรค์ สามารถเปล่งเสียงร้องเพลงและร่ายรำได้อย่างงดงาม แต่ทว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีเวทมนตร์มีฤทธานุภาพสูง ถึงขั้นมีตาทิพย์เท่านั้นที่จะสามารถมองเห็นนารีผลได้ อุบายนี้นิรมิตขึ้นมาเพื่อป้องกันอันตรายให้พระนางมัทรีปลอดภัย เพื่อว่าเมื่อเหล่า ฤๅษี นักสิทธิ์ วิทยาธร คนธรรพ์ และเทพหรือมารทั้งหลายหากเดินทางผ่านมาพบต้นไม้นี้ ก็จะพากันไปเด็ดผลนารีมาเพื่อเสพสังวาส

เมื่อสมสู่กับนารีผลแล้ว บรรดาดาบส ฤๅษี นักสิทธิ์ วิทยาธร คนธรรพ์ก็จะหมดอิทธิฤทธิ์ลง เนื่องจากจิตอกุศลและไม่อาจปลงไม่อาจยับยั้ง จึงยังผลให้ตบะบารมีและเวทมนตร์ต่าง ๆ เสื่อมลงด้วยประการนั้นเอง ใครที่มาเด็ดผลนารีไปเสพสังวาสก็จะมิสามารถเหาะเหินเดินอากาศไปต่อได้ หนทางเดียวที่จะออกจากป่าหิมพานต์มาได้ก็ต้องบำเพ็ญเพียรใหม่จนตบะแก่กล้า ซึ่งก็ต้องใช้เวลานานหลายสิบปี ไม่คุ้มกับเลยกับการเห็นแก่กามราคะเพียงแค่ 7 วัน ลักษณะของนารีผลนั้น ในตำนานโบราณอธิบายว่า นารีผลเมื่อสุกแล้ว จะกลายเป็นหญิงสาวงามอายุประมาณ 16 ปี มีนิ้วมือทั้ง 5 ที่มีขนาดนิ้วยาวเท่ากันหมด ผมยาวสีน้ำตาลทอง ดวงตากลมโต คอเป็นปล้อง ร่างอ้อนแอ้นไม่มีโครงกระดูก แต่ส่งเสียงได้เหมือนมนุษย์ผู้หญิงทั่วไป บรรดาฤๅษี กินนร วิทยาธร คนธรรพ์ ที่ยังมีกิเลสตัณหาอยู่ก็มักจะมาคอย

เฝ้ารอที่โคนต้น รอให้ผลสุกก็จะเข้ามาแย่งชิงกันเด็ดไปเป็นภรรยา หลายครั้งจำนวนฤาษีดาบสมีมากกว่าผลที่สุก จนถึงกับต้องยื้อแย่งกัน ทำร้ายกันถึงตาย ผู้ที่เหาะได้ก็เหาะขึ้นไปเก็บ ผู้ที่เหาะไม่ได้ก็ใช้ไม้สอยหรือปีนขึ้นไปเก็บ แต่นารีผลมีชีวิตอยู่ได้เพียง 7 วัน ก็จะเน่าเปื่อยแห้งไป เมื่อ 20 กว่าปีมานี้ มีผู้พบนารีผลที่แห้งมากแล้วแต่ลักษณะเหมือนตามตำนานทุกประการ ยกเว้นว่ามีขนาดเล็ก มิได้มีขนาดเท่าคน ตามข่าวระบุว่าผลแห้งนั้นมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เหมือนกลิ่นไม้หอมอีก เมื่อผู้เชี่ยวชาญนำไปเอ๊กซ์เรย์ก็พบว่าไม่มีโครงกระดูกเหมือนมนุษย์! กรณีการค้นพบอันฮือฮานี้บางคนบอกว่าเป็นเพียงลูกกรอก บางคนว่าเป็นการแกะสลักมาจากมันเทศแล้วนำไปตากให้แห้ง

Credit : PaiLin

By Admin Park