ตำนาน มิโนทอร์ (Minotaur)
2015-01-20 12:21:22

ภูตหัววัว ผู้คืนชีพในเกมต่าง ๆ

ในเกมคอมพิวเตอร์และในหนังผจญภัยแบบย้อนยุคจะมีภูตแฟนตาซีตัวนี้ปรากฏอยู่เสมอ แต่ชาวเกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกมต่าง ๆ อาจจะรู้จักมิโนทอร์ในฐานะของมอนสเตอร์ หรือปีศาจหัววัวที่อาศัยอยู่ใต้เขาวงกต มากกว่าจะคิดว่าเขาก็เป็นภูตที่เคยแสนดีมาก่อน

 

ตามตำนานกรีกเล่าว่า ไมนอสนั้นชอบหาเรื่องแย่งชิงบัลลังก์กับพี่ชายและน้องชายของตน ซึ่งชาวครีตอาจจะไม่ค่อยพอใจในการที่ไมนอสจะขึ้นเป็นกษัตริย์ การจะก้าวขึ้นสู่บัลลังก์กษัตริย์ของครีต (Crete) ไมนอสจำต้องชนะใจชาวครีตให้ได้ไมนอสก็เลยอ้างว่าเทพเจ้าหลายองค์ก็เห็นดีด้วยกับเขานะ ถ้าเขาขึ้นครองบัลลังก์เทพก็จะให้พรและตอบรับคำอธิษฐานตลอดไปแต่ชาวครีตยังไม่เชื่อถือ กลับขอท้าให้เขาขอโพไซดอน เจ้าแห่งมหาสมุทร ให้ส่งวัวตัวใหญ่กำยำพ่วงพีขึ้นมาจากทะเลให้ดูเป็นขวัญตาแล้วจึงจะยอมเชื่อและให้ไมนอสขึ้นเป็นกษัตริย์ ซึ่งก็แน่นอนล่ะว่า มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้จริง ๆ

 

ครั้นชาวครีตทั้งหมดก็ติดตามไมนอสไปที่ริมหาด เพื่อเฝ้าดูพิธีดังกล่าว ไมนอสก็ได้เฝ้าวิงวอนเทพโพไซดอนเพื่อขอให้พระองค์ส่งวัวขึ้นมาจากทะเลให้ตามที่ชาวบ้านท้า และเขาก็ยังได้สัญญาว่าจะฆ่าวัวตัวนั้นเป็นการบูชายัญ เพื่อเป็นการสรรเสริญเกียรติแห่งเทพโพไซดอนทันที ไมนอสเฝ้าอธิษฐานไม่นาน ชาวครีตก็ต้องแตกตื่นเมื่อเห็นต่อหน้าต่อตาว่า น้ำทะเลเริ่มแหวกออกเป็นช่อง! ทันใดนั้นเอง วัวตัวใหญ่ เขาสวยงาม สีขาวพ่วงพีงดงามตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้น และว่ายจากทะเลตรงมาเข้าฝั่งดังคำวอนของไมนอส!

 

เมื่อคำท้าทายของชาวครีตถูกเอาชนะได้ไมนอสก็ได้ขึ้นครองบัลลังก์เป็นกษัตริย์สมดังใจหมาย แต่ทว่าเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์แล้ว กษัตริย์ไมนอสกลับมิได้รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนสัญญาที่ให้ไว้กับเทพโพไซดอนก็ถูกลืมเลือนด้วยเหตุว่าวัวสีขาวตัวนั้นช่างสง่างามจนพระองค์ฆ่ามันไม่ลง ได้แต่ปล่อยมันไว้กับฝูงสัตว์ของพระองค์ และเอาวัวธรรมดา ๆ ตัวหนึ่งไปทำการบูชายัญให้แก่เทพโพไซดอน

 

หลอกใครไม่หลอก ดันไปหลอกเทพเจ้าไมนอสทำพลาดมหันต์ เทพโพไซดอนเจ้าแห่งสมุทร เมื่อได้รับการบูชายัญอย่างหลอกลวง ก็ย่อมรู้สึกแค้นนัก หนอยแน่ะ บังอาจหลอกเทพได้ แถมยังไม่รักษาสัญญาอีกต่างหาก เทพโพไซดอนจึงคิดหาวิธีแก้แค้นแบบแสบ ๆ คิดได้แล้วก็จึงสาปให้ ปาซิฟาอี ผู้เป็นมเหสีของไมนอสไปหลงรักวัวขาวตัวนั้น!

 

มเหสีปาซิฟาอีที่ต้องคำสาปก็อุทิศตนไปเฝ้าคอยปรนนิบัติดูแลวัวของเทพเจ้า ทั้งเฝ้าโอบกอด ลูบไล้มันทุกวันอย่างเสน่หายิ่ง หาข้าวโพดอ่อนหาธัญพืชอย่างดีไปให้วัวเทพเจ้าได้กินอย่างอิ่มหนำสำราญ ครั้งหนึ่ง พระนางถึงขนาดสั่งการให้ตามตัว แดดาลุสนักประดิษฐ์คนเก่งให้เดินทางมาที่ครีต เพื่อให้ทำการสำคัญที่น่าตระหนกตกใจ และพิสดารอย่างมาก เพื่อตอบสนองตัณหาของพระนาง

 

นั่นก็คือการสั่งให้ช่างทำการสร้างแม่วัวปลอมที่ดูแข็งแรงงดงามขึ้นตัวหนึ่ง เพื่อหลอกเจ้าวัวหนุ่มช่างก็สร้างวัวไม้ขึ้นตัวหนึ่ง ภายในเป็นช่องโปร่ง เอาหนังวัวคลุมไว้ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว นางก็เข้าไปหมอบอยู่ใต้ร่างแม่วัวปลอม เพื่อสวมรอยว่าเป็นแม่วัว คอยท่าให้วัวสง่างามของเทพมาร่วมอภิรมย์สมสู่! แต่บางตำนานเล่าว่า วัวเผือกนั้นแปลงร่างเป็นเทพบุตรผู้งดงามมาทำให้พระมเหสีหลงรักจนสมสู่กันเรื่อยมา ไม่นานหลังจากที่พระมเหสีมีความสัมพันธ์พิสดารกับวัวหนุ่ม พระนางก็ตั้งครรภ์ ต่อมาก็คลอดบุตรออกมาเป็นทารกประหลาดที่มีหัวเป็นวัว มีตัวเป็นคน!

 

ความลับต่าง ๆ ถูกเปิดเผย ชาวเมืองลือกันไปทั่ว กษัตริย์ไมนอสแทบกระอักเลือดด้วยความอับอาย พระองค์สำนึกได้ว่านี่คือการแก้แค้นของเจ้าสมุทรโพไซดอนนั่นเอง กษัตริย์ไมนอสคิดวิธีสังหารเด็กปีศาจทิ้งเพียงไร แต่ก็ยังหาวิธีที่ดีไม่ได้ จึงต้องทนกัดฟันเลี้ยงไว้ก่อน เพราะเกรงว่าโพไซดอนจะเล่นงานตนเป็นซ้ำสอง ชาวครีตเรียกพระโอรสองค์นี้ว่า มิโนทอร์ ซึ่งแปลว่า โอรสวัวแห่งไมนอส

 

มิโนทอร์ จึงเป็นสัตว์ประหลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วผิดธรรมดา เขาเล็ก ๆ บนหัวของเขาก็เติบโตเป็นวงกว้างกว่าแขนคนเมื่อเหยียดออก และกลายเป็นคนครึ่งสัตว์ที่เหมือนอสรุกายกระหายเลือด เที่ยวไล่จับข้าราชบริพารในวังกินเป็นอาหาร กษัตริย์ไมนอสสั่งให้ส้รางคุกที่ไม่มีทางออก ในที่สุดคุกสำหรับขังมิโนทอร์ก็ถูกสร้างขึ้นสำเร็จ เป็นห้องโถงใหญ่ มีช่องทางเดินวกวนน่าเวียนหัว มีทั้งชั้นล่างและชั้นบน เรียกว่า เขาวงกต

 

นอกจากพระมเหสีจะมีโอรสคือมิโนทอร์ที่เกิดจากวัวเผือกชู้รักแล้ว พระนางยังมีโอรสอีกองค์คือ แอนโดรจีอุส ที่เกิดกับกษัตริย์ไมนอสแอนโดรจีอุสได้เดินทางไปร่วมแข่งกีฬาที่เอเธนส์และได้ชัยชนะในกีฬามากมายด้วยความที่เป็นคนมีความสามารถมาก แต่มีชาวเอเธนส์กลุ่มที่แอบไม่พอใจ และไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬาก็ช่วยกันจับตัวเขาไปเชือดคอหลังพุ่มไม้จนตายคาที่

 

กษัตริย์ไมนอสรับฟังข่าวด้วยหัวใจแตกสลาย พระองค์สั่งให้ยกทัพเข้าตีเอเธนส์เพื่อเป็นการล้างแค้นให้แก่ลูกชาย กองทัพที่โกรธแค้นตรงเข้าโอบล้อมเอเธนส์ทุกด้านจนชาวเอเธนส์ต้องขอเจรจาหย่าศึก กษัตริย์ไมนอสจึงตั้งกฎว่า ทุก ๆ 9 ปี เอเธนส์จะต้องส่งหญิงสาว 7 คน และชายหนุ่ม 7 คน ลงเรือที่ชักใบสีดำเดินทางมาครีต และเหยื่อเหล่านั้นจะถูกส่งเข้าไปสู่เส้นทางแคบวกวนอันมีแสงเพียงสลัว ๆ ให้คลำหาทางไปจนได้ยินเสียงลมหายใจที่รุนแรงของมิโนทอร์ เหยื่อเหล่านั้นจะพบจุดจบที่น่าสยดสยอง ซึ่งว่ากันว่าเรื่องราวนี้ถูกเล่าต่อกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปีอย่างน่าหดหู่และน่าสะพรึงกลัว

 

ย้อนกลับไปที่เมืองครีต หลังจากชนะศึกเอเธนส์ไม่นานนัก ธีสซูส (Theseus) ผู้เป็นโอรสของพระราชแห่งเอเธนส์ ก็ได้แฝงตัวไปพร้อมกับเหยื่อเคราะห์ร้ายที่จะถูกส่งไปสังเวยมิโนทอร์ ธีสซูสประกาศอย่างมุ่งมั่นว่าเขาจะต้องเป็นผู้พิชิตมิโนทอร์ให้ได้ และจะติดใบเรือสีขาวกลับเอเธนส์

 

เมื่อโอรสแห่งเอเธนส์มาถึงเมืองครีต พระธิดาของกษัตริย์ไมนอสก็หลงรักธีสซูสตั้งแต่แรกพบ นางได้แอบยัดด้ายใส่มือเขาไปด้วยก่อนที่จะถูกส่งตัวไปสู่เขาวงกต ธีสซูสโรยด้ายมาตามทางเดินที่วกวน เขาคอยเงี่ยหูฟังเสียงมิโนทอร์อย่างระมัดระวัง จนกระทั่งมาถึงทางแยกแรกธีสซูสก็ได้ยินเสียงหายใจฟึดฟาดของวัวที่พุ่งเข้าหาด้วยความรวดเร็ว

 

ธีสซูสเป็นเหมือนนักรบที่ปราดเปรียว เขาสามารถกระโดดหลบหลีกการจู่โจมของมิโนทอร์ได้ทุกครั้ง การต่อสู้ก็ดังออกไปถึงนอกเขาวงกตในที่สุดมิโนทอร์ก็ถูกจับหักคอสิ้นใจ วัวดุในร่างมนุษย์ที่น่าสะพรึงกลัวของครีตก็สิ้นชื่อในบัดนั้นเองด้วยฝีมือของโอรสกษัตริย์เอเธนส์ จากนั้นธีสซูสก็คลำทางตามเส้นด้ายจนสามารถออกมาข้างนอกเขาวงกตได้สำเร็จ ธีสซูสออกเดินทางกลับบ้าน พร้อมกับอรีแอดนีพระธิดาของกษัตริย์ไมนอส แต่กลางทางระหว่างคราวขึ้นพักบนเกาะแนคซอส ธีสซูสก็ทรยศรักกับเจ้าหญิงผู้ซึ่งช่วยเหลือเขา ขณะที่เธอเผลอหลับ ธีสซูสทิ้งเธอไว้ที่นั่นและรีบแล่นเรือหนีไปใบเรือก็ยังเป็นสีดำ เพราะเขาลืมเปลี่ยนเป็นสีขาวตามคำสัญญาที่ประกาศไว้

 

กษัตริย์เอเธนส์ทรงเห็นเรือใบสีดำแล่นเข้ามาแต่ไกล ก็เข้าใจว่าธีสซูสลูกชายผู้เป็นที่รักสิ้นชีวิตเสียแล้ว พระราชาผู้ชราและหัวใจแตกสลายจึงกระโดดลงจากผาเพื่อจะฆ่าตัวตายตามลูกรักไปด้วยความเสียใจและรู้สึกไร้เกียรติที่มิอาจปกป้องเมืองและโอรสของตนได้

 

นี่เป็นเรื่องราวของมิโนทอร์ที่แม้ตายไปนานแล้วในตำนาน แต่ทว่าเขายังคืนชีพโลดแล่นในเกมคอมพิวเตอร์มากมายหลายเกมส์เลยทีเดียว

 

Credit : PaiLin

By Admin Park


Admin :
view
:
9995

Post
:
2015-01-20 12:21:22


ร่วมแสดงความคิดเห็น