ภาพถ่ายแนว Surrealism ที่มากับแรงบันดาลใจ
2014-12-22 15:12:59

 

ประวัติความเป็นมาของศิลปะเหนือจริง (Surrealism)
 
     Surrealism ลัทธิศิลปะเหนือจริง เริ่มขึ้นตอนต้นของศตวรรษที่ 20 ในประเทศฝรั่งเศส มีรูปแบบรากฐานมาจากกลุ่มดาด้า (Dada) โดยนักทฤษฎีหลักประจำกลุ่มก็คือ อองเดร เบรตง มีจุดหมายอยู่ ที่การคลี่คลายสภาพอันขัดแย้งระหว่างระยะห่างของความฝันและความเป็นจริง โดยถ่ายทอดออกมาในงานศิลปะด้วยวิธีต่างๆ กัน เช่น สร้างภาพซึ่งดูเหนือจริงหรือถึงขั้นหลอน หรือพัฒนาเทคนิคด้านภาพที่จะช่วยถ่ายทอดความฝันหรือจิตใต้สำนึกออกมา งานของกลุ่มนี้จึงมักเกี่ยวข้องกับทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมันต์ ฟรอยด์ที่ว่า มนุษย์ทุกคนอยู่ภายใต้อิทธิพลของจิตไร้สำนึก ซึ่งเราฝังความอยากอันมิได้ขัดเกลาเอาไว้ จนทำให้รู้สึกว่าความป่าเถื่อนยังมิได้หายไปจากมนุษย์ หากแต่หลบอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ
 
     ศิลปะแนวเซอเรียลิสม์ มีความหมายว่า เหนือความจริง เพราะศิลปะแนวนี้ถ่ายทอดเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในความฝันออกมา งานเซอเรียลิสม์มีความสำคัญอยู่ที่ การแสดงออกของจิตใต้สำนึกอย่างอิสระ-ปราศจากการควบคุมของเหตุผล มีความฝันและอารมณ์ จินตนาการ ค่อนข้างโน้มเอียงไปในทางกามวิสัย
 
     หลักการของเซอเรียลิสม์คือ จินตนาการเป็นส่วนสำคัญของการแสดงออก จินตนาการคือจิตไร้สำนึก และจิตไร้สำนึกเป็นภาวะของความฝัน ที่มีขบวนการต่อเนื่องกันซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์งานศิลปะได้ สิ่งที่เราเห็นจากโลกภายนอกขณะตื่น เป็นเพียงปรากฏการณ์ ทางการแทรกแซงความงามของพวกเขาคือความมหัศจรรย์ ความมหัศจรรย์เพียงอย่างเดียวที่สามารถสร้างศิลปะให้สมบูรณ์ได้ และยังให้ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความหมายต่อความรู้สึกของมนุษย์ แนวคิดของศิลปะเหนือจริง เกิดจากการตั้งคำถามในการใช้ชีวิตของมนุษย์ว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่เราเคยถูกสอนมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเชื่อ ประเพณี วัฒนธรรมต่างๆ นั้น มีความจำเป็นต่อชีวิตเราจริงหรือไม่ในอดีตที่มนุษย์ยังไม่มีความเข้าใจหรือความรู้พอที่จะใช้ในการดำรงชีวิต การตั้งกฎเกณฑ์หรือข้อแม้ต่างๆ อาจจำเป็นเพื่อให้มนุษย์ใช้ชีวิตอยู่ในระเบียบของสังคม แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งต่างๆ ในโลกได้รับการพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ เรามีความเข้าใจในสิ่งที่เราเป็นมากขึ้น ทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อความเชื่อที่เคยถูกสอนมาวัฒนธรรมที่ต่างกัน เห็นการใช้ชีวิตของคน ได้เห็นความเชื่อที่มนุษย์สร้างขึ้นและอยู่เป็นเส้นขนานกับการใช้ชีวิต ได้อ่านหนังสือในเชิงจิตวิทยาและศิลปะร่วมสมัย ทำให้คำถามต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย แนวความคิดของงานครั้งนี้คือการตั้งคำถามกับการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่ถูกผูกมัดด้วยความเชื่อต่างๆ จนบางครั้งข้อผูกมัดเหล่านั้นกลายเป็นข้อแม้ที่ทำให้มนุษย์ไม่สามารถพัฒนาต่อได้
 
     การตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อให้การใช้ชีวิตในสมัยก่อนอยู่ในกฎระเบียบรวมถึงความกลัวที่ถูกสร้างขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นนามธรรมได้ถูกพิสูจน์ด้วยความจริงของการใช้ชีวิตของคนในยุคต่อมา แล้วสิ่งเหล่านั้นยังจำเป็นกับการมีตัวตนของเราอยู่หรือไม่ ด้านรูปทรงและวิธีการ
 
1. ศิลปินแสดงออกด้วยสีที่มีความเข้มปานกลาง ให้ความรู้สึกนุ่มนวลบนผิวหน้า ด้วยการเกลี่ยให้กลมกลืน
 
2. ศิลปินแสดงออกด้วยวัสดุอื่น ปนกับวัสดุที่ศิลปินผู้นั้นถนัด เช่น ทรายปนกับสีน้ำมัน กระดาษสีปนกับสีน้ำมัน
 
3. ศิลปินพยายามจะซ่อมสิ่งที่ต้องการแสดงออกด้วยเทคนิคของการเขียน เช่น เขียนวัตถุบนกระจกใส หรือเขียนความชัดเจนของสิ่งของคลุมเรื่องที่ต้องการแสดง
 
4. ศิลปินพยายามสร้างสรรค์ แสง เงา และสีขึ้นเอง
 
หรือจะสรุปสั้นๆได้ว่า Surrealism คือการเปลี่ยนจินตนาการให้เป็นภาพจริงๆ เซตนี้เอาภาพแนว Surrealism สวยๆ ที่ดูแล้วสะท้านไปถึงจิตวิญญาณมาฝากกัน สวยตระการตา และ ได้อารมณ์มากๆเลย
 
ข้อความจากเจ้าของภาพที่มาตั้งกระทู้บนพันทิป
 
เป็นโพสแรกของผมใน Pantip นะครับ ทั้งหมดนี้เป็นผลงานภาพถ่ายที่จัดทำขึ้นมาเมื่อ 3-4 ปีมาแล้ว ซึ่งเป็นภาพถ่ายแนว Surrealism
ซึ่งเป็นแนวทางที่ผมสนใจมาโดยตลอดตั้งแต่เมื่อครั้งยังเรียนจิตรกรรม มาถึงตอนนี้มีความจำเป็นหลายประการที่ไม่สามารถทำงานจิตรกรรมได้ เนื่องด้วยหน้าที่และการงาน จึงอยากนำแนวทางนี้มาแปลงเป็นภาพถ่าย ซึ่งเทคโนโลยีสมัยนี้สามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่
ผลงานมีทั้งภาพชุดที่มีแนวคิดและแรงบันดาลใจที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงภาพเดี่ยวที่นำมาเสนออีกบ้างเล็กน้อย
 
ภาพชุดที่ลองนำมาเสนอ มี4ชุดดังนี้
 
- Change of Life
- Haunted
- Premonition of Death
- Identification
 
ส่วนที่เหลือก็จะเป็นภาพเดี่ยว ที่มีแนวคิดแตกต่างกันออกไป
 
 
เราตามไปดูกันดีกว่าคะว่าภาพผลงานของเจ้าของกระทู้นี้เป็นอย่างไรบ้าง 
 
ชุดแรก - Change of Life -
 
 
     แรงบันดาลใจมาจากตัวผมเองโดยตรงครับ เนื่องด้วยผมเคยประสบอุบัติเหตุทางรถ ทำให้ขาหักถึง2ครั้ง ครั้งแรกอายุ12  ครั้งที่2  อายุ26 จึงอยากสะท้อนให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานที่เดินไม่ได้เกินครึ่งปี โดยต้องใช้ไม้ค้ำยันอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถทำอะไรได้ตามปกติ ชีวิตผกผันมากในตอนนั้น จึงได้ถ่ายทอดมาเป็นผลงานชุดนี้ เพื่อเตือนสติตัวเอง ไม่อยากกลับไปอยู่จุดนั้นอีก
 
 
 Change of Life #2 -
 
 
 
- Change of Life #3 -
 
 
 
- Change of Life #4 -
 
 
 
ชุดที่ 2  Haunted
 
 
เมื่อเราได้อยู่ในสังคมเมือง เป็นมนุษย์เงินเดือน บ่อยครั้งที่ต้องทำงานหนักกลับบ้านดึกดื่น แทบไม่ได้พักผ่อน เสื้อผ้าเหล่านั้นก็เป็นตัวแทนของคนทำงาน ซึ่งในบางครั้งจิตใต้สำนึกก็อาจเกิดความสับสนหลอกหลอนจิตใจตัวเอง มองเห็นวิญญาณสิงสถิตย์อยู่ตามเสื้อผ้าเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา 
 
 
- Haunted#2 -
 
 
 
- Haunted#3 -
 
 
 
- Haunted#4 -
 
 
 
 
ชุดที่ 3 Premonition of Death
 
 
     โบราณเคยกล่าวไว้ว่าหากชะตาชีวิตคนเราที่กำลังจะถึงฆาต ก็มักจะมีลางบอกเหตุบางอย่างเข้ามาในชีวิต ซึ่งเปรียบเสมือนสัญญาณมรณะจากขุมนรก เพื่อเป็นตัวบ่งชี้ว่าชีวิตกำลังจะถึงจุดจบแล้ว
**** ส่องกระจกแล้วไร้เงาหัวตัวเอง เป็นเรื่องเล่าขานกันมาไม่จบสิ้น
 
 
Premonition of Death #2
 
 
**** อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เพราะความประมาท แต่ทำไมคนเราก็ชอบโทษผีสางว่าถูกผีบังบ้าง ผีปิดตาบ้าง
 
 
Premonition of Death #3
 
 
**** บางครั้งก็อาจรู้สึกได้ถึงผู้มาเยือน
 
ชุดที่ 4 Identification
 
 
     ในท่ามกลางความมืดมิดของกฎเกณฑ์ บางครั้งคนเราต้องซุกซ่อนความเป็นตัวตน
เอาไว้ภายในพื้นที่ส่วนตัวเล็กๆของจิต ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างสำหรับเก็บงำความคิด ที่ยังคงสว่างไสวอยู่ภายในเบื้องลึกของจิตใจ
 
Identification #2
 
 
 
Identification #3
 
 
 
- Shadows of Retribution -
 
 
      หากคนเราได้สร้างกรรมที่ไม่ดีกับผู้อื่นไว้ โดยไม่มีการอโหสิกรรมหรือตัดกรรม ไม่ว่าภพชาติไหน ผลกรรมนั้นก็จะตามติดตัวมาในรูปแบบของเจ้ากรรมนายเวรอยู่ตลอดเวลา จะหนักหรือเบาก็ขึ้นอยู่กับแรงอาฆาตพยาบาท ทำให้ชีวิตต้องคอยหวาดผวาอย่างไม่เป็นสุข เพียงแค่รอเวลาและโอกาสที่เหมาะสม  ผลกรรมนั้นก็จะคืนสนองในไม่ช้า
 
- Inside -
 
 
ปิดท้ายด้วยภาพนี้ครับ แต่ไม่ใช่ Surreal ครับ
 
- Dinner -
 
 

ที่มา : pantip.com/topic/33010247


Admin : Chanya
view
:
4101

Post
:
2014-12-22 15:12:59


ร่วมแสดงความคิดเห็น