สุสาน แปร์ ลาแชส (Cimetiere du Pere-Lachaise) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส (France) หากต้องไม่พลาดโอกาสไปเยือน หรือมีชื่อหนึ่งว่า สุสานตะวันออก (Cimetiere de l’Est) ถือว่าเป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดของกรุงปารีส (Paris) และยังเป็นหนึ่งในสุสานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

 

 

     โดยสุสานแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 118 เอเคอร์ ตั้งอยู่ในเขตที่ 20 เป็นชื่อของบาทหลวง Pere Francois de la Chaise (1624-1729) ก่อสร้าง โดยนโปเลียน ในปี 1804 ภายในสุสานมีหลุมฝังศพกว่า 33,000 หลุม เป็นที่ฝังศพของผู้มีชื่อเสียงในสาขาต่างๆ อาทิ การเมือง วิทยาศาสตร์ ดนตรี วรรณกรรม เช่น พรุสต์ (Proust) บาลซัค (Balzac) หรือนักประพันธ์เพลงอย่างโชแปง (Chopin) บิเซต์ (Bizet) รอสซินี (Rossini) และออสการ์ ไวลด์ (Oscar Wilde) นักเขียนและกวีคนสำคัญชาวไอริชที่มีผลงานการเขียนบทละคร และ เรื่องสั้นเป็นจำนวนมาก 

 

 

     ส่วนของ เวลาเปิด-ปิดประตูสุสาน แบ่งเป็น 2 ฤดูกาล ฤดูร้อนเปิด 08.00 น. ปิด 18.00 น. ฤดูหนาว เปิด 09.00 น. ปิด 17.30 น.มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Metro 3 สถานีที่อยู่ไม่ไกลจาก ประตูทางเข้าทั้ง 3 ด้านของสุสาน คือ สถานี Gambetta สถานี Pere Lachaise และ สถานี Philippe Augusteใกล้ๆ กับสถานี Gambetta ภายในสุสานมีบรรยากาศคล้ายๆกับสวนสาธารณะที่ บรรยากาศร่มรื่น สงบเงียบ มีไม้ดอก ไม้ยืนต้น ปลูกเรียงรายอย่างสวยงาม ในทุกๆปีจะมีผู้คนจากทุกสารทิศทั่วโลกเดินทางมาที่สุสานแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย 

 

 

 

 

 

     และหนึ่งในนี้มีหลุมศพของอดีตนักเขียนชาวฝรั่งเศส "Victor Nior" ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเจริญพันธุ์ไปซะแล้ว เพราะมีผู้หญิงหลายคนมาที่นี่ เพื่อมาจูบที่ปากรูปปั้นของเขา และลูบคลำที่เป้าของรูปปั้นเพื่อหวังว่าจะทำให้มีลูกดังใจ ไปจนถึงเรื่องบนเตียงก็ไร้ปัญหา จะเห็นได้ว่าบริเวณเป้าและปากของรูปปั้นมีสีไม่สม่ำเสมอกับส่วนอื่นๆ แถมผู้หญิงบางคนยังใจกล้าถึงขั้นปีนขึ้นไปบนรูปปั้นเพื่อทำอนาจารอีกด้วย คงไม่ต้องนึกภาพเลยว่า พวกเธอเหล่านั้นขึ้นไปทำอะไร 

 

 

 

     ไม่น่าล่ะ ทำไมคู่รักส่วนใหญ่ถึงชอบไปฮันนี่มูนที่ฝรั่งเศสกันมาก บางคู่ไปแล้วแถมยังได้สมาชิกในครอบครัวเพิ่มมาอีก หรือว่าเขาจะไปลูบกันมาจริงๆ เรื่องแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้นะคะ ใครไปมาแล้วได้ผล อย่าลืมมาบอกกันด้วยนะ

 

 

     นอกจากหลุมศพของ"Victor Nior" แล้ว ยังมีอีกหลุมฝังศพหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากและมีเรื่องราวคล้ายๆกันคือ หลุมศพของออสการ์ ไวลด์  เขาเป็นกวีและนักเขียนบทละครชื่อดังชาวไอริช แห่งศตวรรษที่ 19 แต่มาเสียชีวิต ในฝรั่งเศสขณะอายุแค่เพียง 46 ปี เท่านั้นเอง 

 

 

     หลุมศพของไวลด์ที่สุสานแปร์ลาแชสเปิดให้สาธารณะชนได้เยี่ยมชมเป็นครั้งแรกในปี 1914 และอยู่รอดปลอยภัยมาอยู่หลายปี จนกระทั่งเข้าสู่ยุค 60 ที่ส่วนที่เป็นอวัยวะเพศของรูปสลักถูกทำลายแล้วสูญหายไปอย่างไร้ร่องลอย นอกจากนั้นก็เกิดกระแสยกย่องเชิดชูไวลด์เป็นวีรบุรุษสำหรับกลุ่มรักร่วมเพศ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มีโอกาสมาเยือนหลุมฝังศพออสการ์ ไวลด์ โดยเฉพาะเหล่าๆสาวๆที่คลั่งไคล้ออสการ์ ไวลด์ต่างหลั่งไหลมาจูบหลุมฝังศพ จนลิปสติกเปรอะเปื้อนเรี่ยราดไปหมด

 

 

     ปัจจุบันได้มีการทำความสะอาดรอบลิปสติกออกไปหมดแล้ว  เหลือแต่เพียงคำจารึกที่หลุมศพ (epitaph) แห่งนี้แต่ดั้งเดิม ที่มาจากงานเขียน “The Ballad of Reading Gaol” อีกหนึ่งงานของไวลด์ที่เขียนขณะที่จำคุกที่เรือนจำเรดดิ้ง ซึ่งเป็นโคลงที่สะท้อนภาพชีวิตสุดท้ายของไวลด์ได้อย่างเศร้าสร้อยสะเทือนใจนัก … 

 

And alien tears will fill for him
Pity’s long-broken urn,
For his mourners will be outcast men,
And outcasts always mourn.

— Oscar Wilde’s “The Ballad of Reading Gaol”

 

 

      ซึ่งหลังจากมีเรื่องราวทั้ง 2 นี้เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำแผงกั้น เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องน่าอายแล้ว หากใครมาทำอะไรเสียหายอีกจะต้องถูกปรับ ประมาณ 9000 ยูโร (360,000 บาท)