10 อาหารพื้นเมืองสุดแปลกจากต่างแดน
2014-07-25 10:45:00

การไปเยือนต่างประเทศนอกจากจะไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ดูวิถีชิวิตของคนในเมืองนั้น ๆ แล้ว อีกอย่างที่สำคัญและไม่ควรพลาดเลยก็คือการรับประทานอาหารพื้นเมืองของเมืองนั้นเพื่อให้ได้เข้าถึงอัตลักษณ์ ความเป็นอยู่ของชาวเมืองนั้น ๆ แต่อาหารบางประเทศก็ดูแปลก ๆ ไม่น่ากินเอาซะเลย ลองดูว่าจะเป็นอาหารจากที่ไหนบ้าง

 

1. ซุปรังนก – ประเทศจีน

 

 

สำหรับคนเอเชียอย่างเรา การทานรังนกคงเป็นเรื่องธรรมดา แต่พวกฝรั่งตาน้ำข้าว หรือคนต่างชาติ เค้ารู้สึกว่ามันแปลก และถือว่ารังนักเป็นอาหารที่แปลกประหลาดสุดๆ กับการกินน้ำลายของนกเข้าไปได้ยังไง ซึ่งรังนกแท้ๆที่ได้มาจากน้ำลายของนกนางแอ่น ที่สำรอกออกมาแล้วจับตัวแข็งเป็นรูปร่างคล้ายรังนกนั่นเอง และรังนกยังเป็นอาหารชั้นเลิศของหลายประเทศในแถบเอเชีย แถมมีราคาแพงอีกมากๆ อาหารเมนูพิสดารนี้เลยอดทำให้พวกฝรั่งเค้าแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมคนเอเชียถึง ชอบกินน้ำลายของนกจัง 

 

2. ตัวบึ้งทอด – ประเทศกัมพูชา

 

 

"ตัวบึ้ง" หรือแมงมุมยักษ์ (Fried tarantulas) ที่เคยเป็นข่าวในบ้านเราว่าต่อยคนตาย แต่ที่เขมร "ตัวบึ้ง" ถูกจับตายให้กลายเป็นอาหาร ที่มีให้เลือกทั้งแบบย่าง อบ ทอด เมนูยอดนิยมของคนเขมร (กัมพูชา) มีให้เห็นเต็มทั่วท้องถนนในเมืองสะกุน จ.จำปงจาม ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมกัน 

 

3. ปลาปักเป้า - ประเทศญี่ปุ่น 

 

 

"ฟุกุ" หรือเป็นที่รู้กันว่า "ปลาปักเป้า" (Puffer fish) เป็นปลาอีกชนิดหนึ่งที่มีพิษร้ายแรง สารพิษที่ว่านี้คือ เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,250 เท่าอยู่ในตัว โดยเฉพาะบริเวณหนัง ไข่ เนื้อ ตับ และลำไส้ หากได้รับพิษจากการทานปลาชนิดนี้เพียงเล็กน้อยก็ถึงแก่ความตายได้ แต่เมนูจากปลาชนิดนี้เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ประเทศญี่ปุ่นจึงออกกฎหมายให้เฉพาะพ่อครัวที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ที่สามารถชำแหละเนื้อปลาปักเป้าเพื่อนำมาทำเป็นอาหารได้ 

 

4. ไข่บาลุต - ประเทศฟิลิปปินส์ 

 

 

ไข่บาลุต (Balut) คือ ไข่ต้มที่มีตัวอ่อนของเป็ด หรือไก่ ตายอยู่ภายใน สามารถหาทานได้ทั่วไปตามข้างทาง เมนูแบบนี้บ้านเราเองก็มีขายนะ แต่เป็นแบบปิ้ง เห็นเค้าเรียกกันว่า "ไข่ข้าว" เคยเห็นเค้านำไข่เสียบไม้ปิ้ง แล้วเดินหาบขายกันตามท้องถนน 

 

5. คาสุ มาร์ซู - เกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี

 

 

คาสุ มาร์ซู (Casu Marzu) หมายถึง "ชีสเน่า" หรือที่ชาวซาร์ดิเนียนเรียกว่า "ชีสหนอน" นั่นเอง คือ ชีสนมแกะที่ภายในมีรูพรุน อันอุดมไปด้วย "หนอนแมลงวัน" ปัจจุบันชีสชนิดนี้ ทางอียูจะกำหนดให้เป็นอาหารที่ผิดกฏหมาย และผิดหลักโภชนาการอย่างแรง แต่ก็ยังคงมีขาย และหาซื้อรับประทานได้จากตลาดมืด "คาสุ มาร์ซู" ภายในชีสจะมีหนอนตัวขาวใส ความยาวประมาณ 8 ม.ม. ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก แถมยังกระโดดได้อีกด้วย หากใครเอามือไปโดน หรือเอาอะไรเขี่ยหนอนที่อยู่ในชีส พวกมันจะกระโดดใส่ทันที (ดีดตัวได้สูงถึง 15 ซ.ม. เชียว) ซึ่งหนอนเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเร่งกระบวนการหมักให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้ไขมันแตกตัว ว่ากันว่าชีสชนิดนี้มีความอ่อนนุ่มมาก เนื่องจากมีของเหลวแทรกซึมอยู่ในเนื้อชีส แต่จะต้องรีบทานในขณะที่หนอนยังมีชีวิตอยู่ เพราะถ้ารอให้หนอนตายก่อน ชีสก้อนนั้นจะถือว่าเป็นอาหารมีพิษทันที 

 

6. เซอร์สตอร์มมิง – สวีเดน

 

 

อีกหนึ่งใน 10 ของอาหารแปลก ต้องยกให้จานนี้ แถมยังมีวางขายทั่วไปในซูเปอร์มาร์เก็ตของสวีเดน นั่นคือเจ้า “เซอร์สตอร์มมิง” หรือ “ปลาเฮอร์ริงเน่า” ปลาร้าบ้านเราที่ว่าแน่ๆ กลิ่นแรงๆ เจอเจ้านี่เข้าไปชิดช้ายไปเลย ก็แน่ละดันเป็น "ปลาเน่า" มักนานเกือบปี “เซอร์สตอร์มมิง” ผลิตจากปลา เฮอร์ริง ในทะเลบอลติก ปลาเหล่านี้จะถูกหมักอยู่ในถังราว 1-2 เดือน ก่อนนำมาบรรจุลงกระป๋องเพื่อหมักต่อ และรอให้ปลาเน่าสนิทอีกราว 6 เดือน จนกระป๋องเริ่มบวมเป่งเพราะภายในมีแก๊ส (ปลาเน่าได้ที่แล้ว) เป็นอันใช้ได้ จากนั้นจึงเริ่มนำออกขายตามท้องตลาด และมักจะเกิดการระเบิดอยู่บ่อยครั้งจากแรงดันของแก๊สในกระป๋อง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ “เซอร์สตอร์มมิง” กลายเป็นวัตถุอันตราย และห้ามไม่ให้นำขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด คนสวีเดนมักรับประทานปลาเน่าชนิดนี้กับขนมปังแผ่นใหญ่บางๆ หรือกับมันฝรั่งต้ม ขณะที่บางคนนิยมทานร่วมกับนม เบียร์ หรือน้ำเปล่า เพื่อให้ทานง่ายขึ้น 

 

7. ปลาหมึกเป็นๆ - เกาหลีใต้ 

 

 

เมนูนี้มีชื่อว่า "Sannakji" กับการเสิร์ฟปลาหมึกสดเป็นๆที่หั่นเป็นชิ้นๆ ที่ราดด้วยน้ำมันงา ดูแล้วก็น่าลิ้มลองดี แถมยังต้องใช้ความพยายามในการกินอีกด้วย กับการต่อสู่กับหนวดปลาหมึกที่ยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ ฉะนั้นหากใครอยากลองเมนูนี้จึงต้องใช้ความไวของฟัน และอดทนสูง ในการต่อสู่ฟาดฟันกับปลาหมึก ซึ่งอาจจะดูดติดฟัน เพดานปาก และลิ้นของเรา แถมยังดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาเวลาเวลาเคี้ยว จึงต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนลงคอ เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย 

 

8. กาแฟ Kopi Luwak - อินโดนีเซีย 

 

 

หากไปได้ใครประเทศอินโดนีเซีย คงต้องไปลิ้มลองขอชิมกาแฟชนิดนี้ เพราะกาแฟ "Kopi Luwak" นั้นเรียกได้ว่าเป็นกาแฟที่หายากและมีราคา "แพงที่สุดในโลก" มาแล้วครั้งหนึ่ง สำหรับเมล็ดกาแฟที่ว่านี้ ได้มาจากมูล (อึ) ของตัวชะมด ซึ่งชาวอินโดฯ เรียกว่า Luwak สัตว์ชนิดนี้จะกินผลกาแฟสดเข้าไป แล้วขับถ่ายเมล็ดกาแฟออกมา กล่าวกันว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการนี้จะมีกลิ่นหอม และรสชาติดีเป็นพิเศษ 

 

9. หัวใจสดๆ ของนกพัฟฟิน - ไอซ์แลนด์ 

 

 

เมนูนี้ช่างโหดร้ายมาก กับการเปิบพิสดารนกพัฟฟิน (Puffin) ที่ถือได้ว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ แต่สำหรับคนไอซ์แลนด์การจับนกพัฟฟินหักคอ ถลกหนัง ควักหัวใจสดๆมาจกทานกัน ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนเนื้อจะถูกนำไปรมควัน ย่าง ทอด หรือกลายเป็นเมนูอันโอชะตามภัตตาคารหรูต่างๆ ปัจจุบันนี้ประชากรนกพัฟฟินกำลังลดลงอย่างมาก ด้วยการไล่ล่าของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับด้วยวิธี "สกาย ฟิชชิ่ง" หรือใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดักจับนก ยิ่งทำให้ลดลงอย่างรวดเร็ว 

 

10. เหล้าดองงู - เวียดนาม 

 

 

เหล้าดองงู ยาโด้ป! ชั้นเลิศของคนเวียดนาม กับการจับงูดองแช่ลงในขวดเหล่า แม้ว่างูนั่นจะมีพิษก็ตาม แต่คนท้องถื่นเค้าว่า หากงูถูกแช่เหล้าเป็นเวลานานๆ เหล้าจะทำให้พิษค่อยๆ เจือจาง และถูกทำลายไปในที่สุด จึงสามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตราย

 

ที่มา : ครูบ้านนอก


Admin : Louksorn
view
:
3927

Post
:
2014-07-25 10:45:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น