ชาวไครเมีย 1.5 ล้านคน ลงประชามติตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.วานนี้ตามเวลามาตรฐานสากล ตรงกับเวลา 13.00 น.วันนี้-01.00 น.วันจันทร์ตามเวลาในไทย ว่าจะแยกไปเข้าร่วมกับสหพันธรัฐรัสเซียหรือจะอยู่กับยูเครนในฐานะสาธารณรัฐปกครองตนเองต่อไปแต่จะมีอำนาจมากขึ้น

 

ประธานคณะกรรมการลงประชามติไครเมียเปิดเผยว่า มีผู้ใช้สิทธิทั้งสิ้นราวร้อยละ 81.37 ผลการนับคะแนน จากการนับคะแนนไปแล้วราวร้อยละ 50 ผลปรากฏว่าร้อยละ 95.5 ของผู้ใช้สิทธิเห็นด้วยกับการแยกตัวออกไปรวมกับรัสเซีย ส่วนที่เมืองเซวาสโตโปล ที่เป็นเมืองที่ตั้งฐานบัญชาการกองทัพเรือภาคทะเลดำของรัสเซีย ผู้ลงคะแนนร้อยละ 93 เห็นด้วยกับการเข้าไปรวมกับรัสเซีย แม้การหยั่งเสียงครั้งนี้ทั้งรัฐบาลยูเครนและประชาคมโลกจะมองว่าเป็นการขัดต่อกฎหมาย และประกาศจะไม่ยอมการรับผลการลงประชามติก็ตาม

 

ที่เมืองซิมเฟอโรโปล ซึ่งเป็นเมืองเอกของสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมีย ประชาชนอย่างน้อย 15,000 คน ได้ร่วมชุมนุมบริเวณจัตุรัสเลนิน เพื่อร่วมฉลองการทำประชามติ ขณะที่ประชาชนเริ่มทยอยสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ชุมนุมต่างร่วมโบกธงชาติรัสเซียและไครเมีย ในระหว่างที่ชมการแสดงคอนเสิร์ต เพื่อรอผลการประกาศจากรัฐสภาอย่างเป็นทางการ

 

ทางการไครเมียเรียกสถานการณ์ในขณะนี้ว่า "ไครเมียสปริง" เหมือนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในโลกอาหรับที่เรียกว่า "อาหรับสปริง" แต่ชาวไครเมียส่วนใหญ่รู้สึกสับสนกับอนาคตของตนเอง เพราะในขณะที่ประชาคมโลกไม่ให้การยอมรับ ไครเมียก็ยังไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียได้ทันทีที่ลงประชามติจะไปอยู่กับรัสเซีย เนื่องจากต้องใช้เวลายื่นเรื่องอย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่ไครเมียพยายามสร้างความมั่นใจกับประชาชนว่าจะไม่เกิดความโกลาหลทางการเงินและทางกฎหมายหลังการลงประชามติ แต่รัฐบาลยูเครนชี้ว่า ไครเมียจะไปไม่รอดเพราะต้องพึ่งไฟฟ้า น้ำประปาและพลังงานจากยูเครน

 

เครดิต มติชน